การเลือกใช้ หุ้มเบาะหนัง เบาะรถยนต์ให้เข้ากับการใช้งานของตนเอง

หุ้มเบาะหนัง หุ้มเบาะรถยนต์แบบถาวรหนังเทียม

หุ้มเบาะหนัง  มีรถยนต์ควรรู้ วิธีการเลือก หุ้มเบาะหนังที่ใช่การใช้งานที่ชอบก่อนเปลี่ยน

หุ้มเบาะหนัง   สำหรับเบาะรถยนต์นั้น ถือเป็นชิ้นส่วนที่ส่งผลต่อผู้โดยสารทุกคนโดยตรง เพราะหากเป็นเบาะรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง การนั่งจะไม่เมื่อยล้า สังเกตได้จากรถยี่ห้อเก่าๆ ที่เวลานั่งจะรู้สึกเมื่อยล้ามากกว่าเบาะรถยนต์ในปัจจุบัน หลายคนเมื่อใช้รถไปได้ระยะหนึ่งแล้วก็มักจะเปลี่ยนหรือซ่อมแซมในส่วนที่ประสิทธิภาพลดลง ไม่เว้นแม้กระทั่งเบาะรถยนต์เอง โดยเบาะรถยนต์ในท้องตลาดนั้นก็มีอยู่มากมายหลายประเภท ทั้งยังมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

  1. หุ้มเบาะหนัง หุ้มเบาะหนังแท้

ถือเป็นหุ้มเบาะหนังแท้ ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เพราะเป็นหุ้มเบาะหนัง ที่มีผิวสัมผัสที่ดี มีความหรูหรา ความคงทนสูง เก็บความชื้นได้ดีกว่า หุ้มเบาะหนังเทียม ไม่อมความร้อน แต่ข้อเสียคือรักษายากกว่าวัสดุชนิดอื่นๆ เวลานั่งอาจเกิดเสียงดัง อันเนื่องจากการเสียดสีของผิวกับเบาะ วิธีรักษานั้น พยายามหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดเป็นเวลานาน เพราะเบาะจะกรอบได้จากการกระทบกับรังสี UV และห้ามโดนน้ำ หรือความชื้น เพราะหุ้มเบาะหนังแท้จะซึมน้ำได้ดี จะทำให้เกิดความอับชื้นการสะสมแบคทีเรีย ที่สำคัญคือห้ามเช็ดหุ้มเบาะหนังด้วยน้ำยาเคลือบเบาะอย่างเด็ดขาด เพราะนานไปจะทำให้เบาะแข็งขึ้นจนกลายเป็นกรอบเลยก็ได้ ควรใช้ Vaseline ทาบางๆ ก็ เพื่อช่วยให้หุ้มเบาะหนังแท้ดูใหม่อยู่เสมอ

2. หุ้มเบาะหนังเทียม

หุ้มบาะหนัง หรือหุ้มเบาะหนังเทียมที่ดูแลรักษาได้ง่ายกว่าหุ้มเบาะหนังประเภทอื่นๆ หลักๆคือเก็บความชื้น อมความร้อน ผิวสัมผัสสบาย  ถ้าเบาะรถยนต์ เลือกใช้หุ้มเบาะหนังเทียม คุณภาพที่เหมาะสำหรับทำเบาะรถยนต์โดยเฉพาะบวกกับการดูแลรักษาที่ดี ก็จะมีอายุการใช้งานได้หลายปี วิธีการรักษากลับง่ายที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง เพราะจะทำให้เสื่อมเร็ว หรือหากเปื้อนก็สามารถใช้ผ้าชุบน้ำบิดพอหมายแล้วเช็ดได้เลย หรืออาจจะเลือกใช้น้ำยาเคลือบเงา ที่ไม่มีสารกัดหนังแทนก็ได้ เพื่อทำให้หุ้มเบาะหนังเทียม หรือ เบาะหนังดูใหม่และอยู่เสมอ

3. หุ้มเบาะกำมะหยี่ และ เบาะผ้า

หุ้มเบาะรถยนต์ หุ้มเบาะกำมะหยี่ หรือ หุ้มเบาะผ้า ถือเป็นเบาะที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงกว่าหุ้มเบาะหนัง ด้วยหนังแท้ และ หุ้มเบาะหนังเทียม เพราะไม่ดูดความร้อนเอาไว้ ผิวสัมผัสดีกว่า มีความหรูหรา เก็บความชื้นได้ดี ความคงทนสูงมากกว่าเบาะชนิดอื่น แต่ข้อเสีย คือมีกลิ่นอับง่าย และดูแลรักษายากมากที่สุดในบรรดาเบาะชนิดต่างๆ เนื่องจากเป็นวัสดุที่เก็บสิ่งสกปรกได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะจำพวกของเหลวที่ไหลซึมลงไป ทำให้เนื้อผ้ามีรอยด่างได้ในทันที อมฝุ่นละออง สะสมคราบสกปรกต่างได้ง่าย เป็นสาเหตุให้เป็นโรคภูมิ ดูและรักษายาก ซึ่งวัสดุที่ใช้นั้นมักจะเป็นสีเข้ม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นสิ่งสกปรกนั่นเอง

สรุป

การเลือกเบาะรถยนต์ หรือ หุ้มเบาะหนัง แต่ละประเภทนั้น มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การดูแลรักษาก็ย่อมต่างกันไปด้วย เพราะวัสดุที่แตกต่างกัน  การเลือก เบาะรถยนต์ย่อมขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานเป็นหลัก อย่างเช่น หากเป็นคนที่ใช้รถโดยการสัมภาระของบ่อย หรือโดยสารคนเป็นประจำ การเลือกเบาะหนังเทียมย่อมดีกว่าการเลือกเบาะหนังแท้หรือเบาะผ้า เพราะดูแลรักษาง่ายกว่านั่นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น